ครูเดชแลกเปลี่ยนเรียนรู้

วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2553

กิจกรรมไหว้ครู โรเงรียนสมเด็จพระญาณสังวร ยโสธร




วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน 2553 โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวรได้จัดกิจกรรมพิธีไหว้ครู ประจำปีการศึกษา 2553 ซึ่งเป็ฯกิจกรรมที่ดำเนินการมาทุกปี ก่อนที่จะขึ้นภาคการศึกษาใหม่ของแต่ละปี เพื่อฝากตัวขอเป็นลูกศิษย์ที่ดี และเป็นกิจกรรมที่แสดงถึงความนอบน้อมของลูกศิษย์ กิจกรรมมีการประกวดทำพานประเภทสร้างสรรค์และประเภทสวยงาม ในส่วนที่ผมรับริบชอบเป็ฯที่ปรึกษา ห้อง ม.1/4 ก็ขอแสดงความดีใจกับลูกศิษย์ที่ผลการประกวดการจัดทำพานประเภทสร้างสรรค์ ได้รับรางวัรองชนะเลิศ อันดับ 1 กิจกรรมไหว้ครูนอกจากลูกศิษย์จะได้ไหว้ครูที่โรงเรียนปัจจุบันแล้วก็มีการปลูกต้นไม้ และยังให้นักเรียนกลับไปไหว้ครูที่สถาบันเดิมของแต่ละหมู่บ้านอีกด้วย โดยปีนี้ทางโรงเรียนได้ให้นักเรียนนำต้นไม้ไปปลูกที่โรงเรียนเดิมด้วย เป็นกิจกรรมที่น่าประทับใจมาก...ขอที่ประทับใจมากๆๆๆๆ ในกิจกรรมไหว้ครูวันนี้ นางสาวอรทัย บุญทวี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 ได้แสดงความสามารถโดยการแต่งบทร้อยกรองแนะนำครูและบุคคลากร โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร เป็นงานประพันธ์ที่มีคุณค่ามาก แสดงถึงความสามารถและผลึกแห่งความรู้ความเข้าใจที่สามารถถ่ายทอดออกจากความตั้งใจ...สาธุ

เพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับการไหว้ครู...ก็เลยนำมาให้อ่านกัน
ที่มา: http:://www.th.wikipedia.orgพิธีไหว้ครู เป็นพิธีกรรมที่สำคัญอย่างหนึ่ง และนับเป็นประเพณีของไทยที่นิยมปฏิบัติมาแต่สมัยโบราณ แสดงถึงความระลึกถึงบุญคุณของครู การไหว้ครู ยังเป็นการแสดงตน ว่าตนเองขอเป็นศิษย์ของท่านโดยตรง เป็นการเคารพครูให้ถูกต้อง แสดงความนอบน้อมอย่างถูกวิธี ปวารณาตนให้ครูได้รับรู้ ว่าเราเป็นศิษย์ของท่านแล้ว พร้อมที่จะน้อมรับคำสั่งสอน ดุด่าว่ากล่าวจากท่านทุกประการ

การไหว้ครูมีใช้ในหลายกิจกรรมเช่น การไหว้ครูในโรงเรียน พิธีกรรมของโรงเรียนในวันครู การไหว้ครูมวย เป็นการไหว้ครูด้วยลีลาของศิลปะมวยไทย เช่นเดียวกับกระบี่กระบอง การไหว้ครู ก่อนการแสดงศิลปะดนตรี เช่น หนังตะลุง และการไหว้ครูในงานประพันธ์ เรียกว่า บทไหว้ครู หรือ อาเศียรวาท (อาเศียรพาท ก็ว่า) เป็นการกล่าวระลึกถึงบุญคุณครู และขอความเป็นมงคล

โดยปรกติสถานศึกษามักจัดพิธีไหว้ครูขึ้นในวันพฤหัสบดีวันใดวันหนึ่งในราวเดือนพฤษภาคมหรือเดือนมิถุนายน

[แก้] ดอกไม้ที่ใช้ในการไหว้ครู
ในพิธีไหว้ครูนับตั้งแต่สมัยก่อน จะใช้ดอกไม้หลัก 3 อย่างในการทำพาน ซึ่งดอกไม้ ความหมายในการระลึกคุณครู ได้แก่

หญ้าแพรก สื่อถึง ขอให้เรียนได้เร็วเหมือนหญ้าแพรก ที่โตได้เร็วและทนต่อสภาพดินฟ้า อากาศ ทนต่อการเหยียบย่ำ ซึ่งเปรียบเสมือน คำดุด่าของครูบาอาจารย์
ดอกเข็ม สื่อถึง ขอให้มีสติปัญญาเฉียบแหลม เหมือนชื่อของดอกเข็ม
ดอกมะเขือ สื่อถึง การเปรียบเทียบว่า มะเขือนั้น จะคว่ำดอกลงเสมอเมื่อจะออกลูก แสดงถึง นักเรียนที่จะเรียนให้ได้ผลดีนั้นต้องรู้จักอ่อนน้อม ถ่อมตน เป็นคนสุภาพเรียบร้อย เหมือนมะเขือที่โน้มลง
ข้าวตอก เนื่องจากข้าวตอกเกิดจากข้าวเปลือกที่คั่วด้วยไฟอ่อนๆ ให้ร้อนเสมอกันจนถึงจุดหนึ่งที่เนื้อข้างในขยายออก จนดันเปลือกให้แยกออกจากกัน ได้ข้าวสีขาวที่ขยายเม็ดออกบาน ซึ่งสามารถนำไปประกอบพิธีกรรม หรือทำขนมต่างๆได้ ดังนั้น ข้าวตอกจึงเป็นสัญลักษณ์ของความมีระเบียบวินัย หากใครสามารถทำตามกฎระเบียบ เอาชนะความซุกซนและความเกียจคร้านของตัวเองได้ ก็จะเหมือนข้าวตอกสีขาวที่ถูกคั่วออกจากข้าวเปลือก
วิธีจัดงาน
การพิธีไหว้ครู ตามแบบที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ จะต้องเตรียมสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้

สถานที่
โต๊ะหมู่บูชา โดยตั้งไว้ที่สูงบนเวทีชิดด้านหลัง ข้างหน้ามีกระถางดอกไม้และธูปเทียน และ โต๊ะ เพื่อว่างพานดอกไม้และธูปเทียนที่นำมาบูชา หนังสือ เพื่อให้ประธานเจิม โดยเอาหนังสือวางไว้บนพาน บนโต๊ะเล็กหน้าที่บูชา
ที่นั่งประธาน และ คณาจารย์ จัดไว้ข้างๆ ที่บูชา ที่นั่งสำหรับนั่งเรียน
สิ่งที่ต้องเตรียมในการไหว้ครู
พานดอกไม้ ประกอบด้วยพืชชนิดต่าง ๆ เช่น หญ้าแพรก (หมายถึง การเจริญงอกงามของสติปัญญา) ดอกมะเขือ (หมายถึง การอ่อนน้อมถ่อมตน) ดอกเข็ม (หมายถึง เฉลียวฉลาด) จะใส่เท่าไรก็ตามให้สวยงาม พอควร
ธูปเทียน
พิธีการ
เมื่อประธานมาถึง ให้กราบทำความเคารพ จนกว่าคุณครูทุกท่านจะผ่านไปหมดทุกคน
ให้ประธานจุดธูปเทียน นมัสการพระพุทธรูปที่แท่นหมู่บูชา
เริ่มพิธีโดยการสวดมนต์ ตามด้วยเจิมหนังสือเพื่อความเป็นสิริมงคล
หลังจากนั้นกล่าวคาถาไหว้ครู และวรรคแรกของคำไหว้ครู
เมื่อกล่าวคำไหว้ครูเสร็จแล้ว ให้ว่าคาถาไหว้ครูตอนท้าย
ตัวแทนนักเรียนกล่าวคำปฏิญาณตน
ให้ตัวแทนของแต่ละห้องนำพานไปให้คุณครูแต่ละท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น