ครูเดชแลกเปลี่ยนเรียนรู้

วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ผลประเมินครูสายวิทย์ ม.ต้น พบส่วนใหญ่เกณฑ์สูง ผิดคาด! ครู ม.ปลาย กลับสอบตกหมดทุกวิชา

ผลประเมินครูสายวิทย์ ม.ต้น พบส่วนใหญ่เกณฑ์สูง ผิดคาด! ครู ม.ปลาย กลับสอบตกหมดทุกวิชา

สพฐ.เผยผลประเมินครูสายวิทย์ ม.ต้น พบส่วนใหญ่เกณฑ์สูง ผิดคาด! ครู ม.ปลาย กลับสอบตกหมดทุกวิชา
“ชีวะ-คณิต- คอมพ์” เกณฑ์ต่ำเกิน 80% “ชินวรณ์” มึนสั่งยกเครื่องผลิตครูเฉพาะทางเป็นพิเศษ
ขณะที่สมรรถนะภาษาอังกฤษ- ไอที ผู้บริหารบ้อท่า ตกเกณฑ์เกือบหมด

วันนี้ (7 มิ.ย.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ
เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า
ที่ประชุมได้รับทราบผลการประเมินสมรรถนะครูผู้สอนและผู้บริหารสถานศึกษารายบุคคลทั่วประเทศ
ตามโครงการยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งผลปรากฏว่า
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ม.ต้น ครูผู้สอนเข้าประเมินทั้งสิ้น 13,385 คน
ทำคะแนนได้ 80% ขึ้นไป หรืออยู่ในกลุ่มสูง 7,260 คน คิดเป็น 54.24%
ได้คะแนน 60-79% อยู่ในกลุ่มกลาง 4,925 คน คิดเป็น 36.79%
ได้คะแนนต่ำกว่า 60% อยู่ในกลุ่มต้น 1,200 คน คิดเป็น 8.97%

วิชาคณิตศาสตร์ ม.ต้น เข้าประเมิน 14,816 คน
กลุ่มสูง 8,596 คน คิดเป็น 58.02%
กลุ่มกลาง 4,311 คน คิดเป็น 29.10%
กลุ่มต้น 1,909 คน คิดเป็น 12.88%

นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า
วิชาวิทยาศาสตร์ ม.ปลาย

วิชาฟิสิกส์ ครูเข้าประเมิน 3,428 คน
กลุ่มสูง 75 คน คิดเป็น 2.19%
กลุ่มกลาง 913 คน คิดเป็น 26.63%
กลุ่มต้น 2,440 คน คิดเป็น 71.18%,

วิชาเคมี ครูเข้าประเมิน 3,061 คน
กลุ่มสูง 693 คน คิดเป็น 22.68%
กลุ่มกลาง 412 คน คิดเป็น 13.49%
กลุ่มต้น 1,956 คน คิดเป็น 63.83%,

วิชาชีววิทยา ครูเข้าประเมิน 2,846 คน
กลุ่มสูง 2 คน คิดเป็น 0.07%
กลุ่มกลาง 389 คน คิดเป็น 13.67%
กลุ่มต้น 2,455 คน คิดเป็น 86.26%,

วิชาโลกดาราศาสตร์ ครูเข้าประเมิน 529 คน
กลุ่มสูง 3 คน คิดเป็น 0.56%
กลุ่มกลาง 193 คน คิดเป็น 36.14%
กลุ่มต้น 333 คน คิดเป็น 63.30%,

วิชาคณิตศาสตร์ ครูเข้าประเมิน 5,375 คน
กลุ่มสูง 3 คน คิดเป็น 0.06%
กลุ่มกลาง 875 คน คิดเป็น 18.28%
กลุ่มต้น 4,497 คน คิดเป็น 83.66%, และ

วิชาคอมพิวเตอร์ เข้าประเมิน 3,901 คน
กลุ่มสูง 4 คน คิดเป็น 0.10%
กลุ่มกลาง 419 คน คิดเป็น 12.36%
กลุ่มต้น 3,478 คน คิดเป็น 87.54%

ส่วนวิชาอื่นๆ ที่เหลืออยู่ระหว่างการประมวลผล เนื่องจากมีครูผู้สอนเข้าประเมินจำนวนมาก

“จากตัวเลขผลการประเมินที่ออกมา ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตว่า ครูผู้สอนโดยเฉพาะในระดับ ม.ปลาย
มีความจำเป็นพิเศษที่ต้องพัฒนาให้มีความรู้ตรงกับสาระวิชาเอกที่สอน ดังนั้น จึงได้มอบให้
สพฐ.ไปดำเนินการพัฒนาครูให้เกิดความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ นอกจากนี้ หากต้องการเห็นผลการปฏิรูปการศึกษา
โดยให้นักเรียนผ่านสาระการเรียนรู้เกิน 50%ในทุกวิชา ศธ.จะต้องไปปรับปรุงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ คือ
ครูระดับประถมศึกษา และ ม.ต้น ควรสามารถสอนแบบบูรณาการ หรือมีวิชาเอกควบคู่
เพื่อให้สามารถสอนหลายวิชาในระดับประถม หรือ ม.ต้น ส่วนระดับ ม.ปลาย
ต้องพัฒนาครูให้มีความเชี่ยวชาญมากขึ้น
โดยอาจจะส่งเสริมให้ครูได้มีโอกาสไปเรียนต่อในหลักสูตรระดับปริญญาโท หรือจัดให้มีหลักสูตร 4+2 คือ
ปริญญาตรี และปริญญาโทต่อไปในอนาคต” รมว.ศธ.กล่าว

นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับผลการประเมินผู้บริหาร มีผู้เข้าประเมินทั้งสิ้น 37,522 คน

ในด้านความรู้และสมรรถนะการบริหารการศึกษา
กลุ่มสูง 6,112 คน คิดเป็น 16.29%
กลุ่มกลาง 15,426 คน คิดเป็น 41.12%
กลุ่มต้น 15,984 คน คิดเป็น 42.59%,

ด้านการเป็นผู้นำและคุณธรรม จริยธรรม
กลุ่มสูง 26,824 คน คิดเป็น 71.48%
กลุ่มกลาง 6,128 คน คิดเป็น 16.34%
กลุ่มต้น 4,570 คน คิดเป็น 12.18%

และ ด้านภาษาอังกฤษและเทคโนโลยี
กลุ่มสูง 534 คน คิดเป็น 1.43%
กลุ่มกลาง 1,410 คน คิดเป็น 3.76%
กลุ่มต้น 35,578 คน คิดเป็น 94.81%

ทั้งนี้ สพฐ.จะต้องไปหาแนวทางพัฒนาผู้บริหารที่ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษา
โดยทำให้ผู้บริหารเป็นผู้บริหารมืออาชีพ ซึ่งถึงแม้ผู้บริหารจะมีองค์ประกอบในด้านการเป็นผู้นำ
อยู่ในกลุ่มสูงเป็นที่น่าพอใจ แต่วิชาที่ว่าด้วยภาษาอังกฤษและเทคโนโลยี ยังมีค่าคะแนนในระดับต้นถึง
94.81% จึงจำเป็นต้องเร่งปรับปรุง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น